ฤกษ์งามยามดี
แม้ฟ้าจะสีขุ่นมัวและหน้ากากอนามัยกำลังจะหมด
แต่เราจะ(พยายาม)ใช้ชีวิตอย่างแข็งแกร่งต่อไปค่ะ
เอ๊ะ พอพูดถึงใช้ชีวิตอย่างแข็งแกร่ง....
.
.
.
ทำไมอิมเมจในหัวถึงมีแต่เหล่าฮีโร่ผู้รันทดในการ์ตูนโชเน็นต่าง ๆ กันนะ
แต่ เอ๊ะ(อีกรอบ)
ในเมื่อเราเป็นคนธรรมดา เราจะใช้ชีวิตอย่างแข็งแกร่งได้บ้างมั้ยนะ...
....
คำตอบคือ
ได้!!!!
ยังไงน่ะเหรอ?
อย่าเพิ่งกดกากบาทออกจากหน้านี้นะคะ!!!!!
มาทำความรู้จักกับเกม RPG กันก่อนค่อยกดออกก็ยังไม่สายเนอะ //กอดขา
อะแฮ่ม เอาล่ะ ในที่สุดก็ได้เข้าเรื่องสักที
ก่อนที่เราจะเอาเกมมาศึกษาอย่างละเอียดได้ เราควรแนะนำ(และเผยแผ่ลัทธิ)ให้ทุก ๆ คนก่อน
เกม RPG หรือ Role-playing Game
คือเกมที่เราสวมบทบาทเป็นตัวละครในเนื้อเรื่องนั้นนั่นเอง
คุณขนมปังไส้ถั่วแดงที่ไม่มีถั่วแดงคะ
จ๋า?
ถ้าแบบนั้นทุกเกมบนโลกใบนี้ก็ถือว่าเป็น RPG น่ะสิ?
.....เอิ่บ
ถ้าจะพูดแบบนั้นมันก็ใช่น่ะนะ....
แล้วจุดที่แยกเกม RPG ออกจากเกมอื่น ๆ คืออะไรกันนะ?
คือต้องขอพูดไว้ก่อนตรงนี้เลยว่าถ้ายึดเอาคำจำกัดความของ Role-playing Game ก็คือตามนั้นเลย
ทุกเกมที่เราเล่นเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะตำรวจจับผู้ร้าย เป็นเจ้าของโรงแรม หรือเล่นเป็นผู้ร้ายซะเอง
ทุกอย่างคือการสวมบทบาทเพราะงั้นทุกเกมควรจะถูกจัดอยู่ในหมวด Role-playing Game สิ???
แอ๊ดแอ่ดดดดดดดดดดดดดด
RPG นั้นมีอะไรมากกว่านั้นค่ะ!!! ดั้งเดิมแล้ว RPG มีที่มาจากบอร์ดเกมอย่าง Dungeon and Dragons ค่ะ เป็นบอร์ดเกมที่ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นตัวละครที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างกันออกไป
เพื่อง่ายแก่การเข้าใจเราจะขอสรุปลักษณะจำเพาะของ RPG ที่เราเคยเล่นไว้ 4 ข้อหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ตัวเอกหรือตัวละครที่เราควบคุมได้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว หรืออย่างน้อยเวลาสู้เรามักไม่ได้สู้ตัวต่อตัว ส่วนใหญ่กลุ่มตัวละครของตัวเอกจะเรียกว่า 'ปาร์ตี้'
2. ความสามารถของตัวละครมีการเติบโตและพัฒนาการอยู่เสมอ หรือก็คือการมี ‘เลเวล’ นั่นเอง ซึ่งเลเวลจะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Status หรือ Stats ของตัวละครนั้น ๆ ยิ่งเลเวลเก่ง stats ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
3. การเล่นไม่ได้เป็นไปแบบเรียลไทม์ เราจะค่อย ๆ เล่น ค่อย ๆ กดปุ่มก็ไม่มีตัวอะไรมาทำร้ายเราระหว่างคิดแน่นอน อย่างถ้าเป็นเกมต่อสู้ ถ้าเราไม่กดหยุดเกมแน่นอนว่าเราจะโดนอัดน่วมเป็นแน่แท้ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็น turn based RPG คือเราและศัตรูจะผลัดกันโจมตีคนละรอบ
4. โดยเฉพาะในเกมที่เนื้อเรื่องอยู่ในโลกแฟนตาซี จะมี 'ระบบอาชีพ' เพื่อความหลากหลาย ปรับสไตล์การเล่นได้ตามใจชอบ จะมีสายบู๊ทั้งปาร์ตี้เพื่ออัดศัตรูน่วมตั้งแต่เทิร์นแรกเลยก็ย่อมได้ อาชีพที่พบบ่อยใน RPG เช่น นักดาบ จอมเวทย์ นักปราชญ์ นักดนตรี ฯลฯ แต่ละอาชีพจะมีความสามารถแตกต่างกันไป
ถ้าจะสมมติให้เห็นภาพก็เช่น
เอาล่ะ เมื่อทุกคนรู้จักเกม RPG คร่าว ๆ แล้วเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เรื่องของเรื่องเลยคืออย่างที่บอกไปว่าเกมที่เราหยิบมาใช้ทำบล็อคนี้เปลี่ยนภาษาและเสียงพากย์ได้
เพราะงั้นพอเล่นแบบเสียงภาษาญี่ปุ่นพร้อม text ภาษาอังกฤษเลยทำให้เราได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
บางทีก็งงว่าเล่นเกมเดียวกันอยู่รึเปล่า 555555555
มาค่ะ ขอยกตัวอย่าง (ในที่นี้จะขอพูดถึงแต่เรื่องของภาษานะคะ ไม่อยากสปอยล์เกมมากจนเกินไป)
นี่บทพูดในช่วงเดียวกันแต่คนละภาษา
: 裏切り者を許しておけない...,
それは正教騎士団の使命ーー
: He betrayed you
If you were just blindly performing your duty, you would have executed him as a traitor.
ในภาษาอังกฤษเลือกใช้คำว่า excecute (ประหาร) อย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่ในภาษาญี่ปุ่นกลับกล่าวเป็นนัยไว้เพียงว่า ตามหน้าที่ของแล้ว ไม่อาจปล่อยคนที่หักหลังไปได้... ในบริบทนี้เรารู้กันว่า ยกโทษให้ไม่ได้ (許しておけない) = ประหาร แต่สุดท้ายคำนี้เองก็ถูกเลี่ยงที่จะกล่าวออกมาตรง ๆ
รูป おけない มาจากรูป おく ที่มีความหมายว่า วางไว้ ทำไว้(ก่อน) ปล่อยไว้
ประโยคที่คุ้นเคยกันก็น่าจะเป็น 放っておけない ที่แปลว่า ปล่อยเอาไว้(คนเดียว)ไม่ได้
ก็คือแสดงความเป็นห่วงปนเหนื่อยใจนิด ๆ พอเอา 許しておけない ถ้ามาแปลไทยก็....
แม้ฟ้าจะสีขุ่นมัวและหน้ากากอนามัยกำลังจะหมด
แต่เราจะ(พยายาม)ใช้ชีวิตอย่างแข็งแกร่งต่อไปค่ะ
เอ๊ะ พอพูดถึงใช้ชีวิตอย่างแข็งแกร่ง....
.
.
.
ทำไมอิมเมจในหัวถึงมีแต่เหล่าฮีโร่ผู้รันทดในการ์ตูนโชเน็นต่าง ๆ กันนะ
แต่ เอ๊ะ(อีกรอบ)
ในเมื่อเราเป็นคนธรรมดา เราจะใช้ชีวิตอย่างแข็งแกร่งได้บ้างมั้ยนะ...
....
คำตอบคือ
ได้!!!!
ยังไงน่ะเหรอ?
ผ่านตัวละครในเกม RPG ยังไงล่ะ!
.
.
.
มาทำความรู้จักกับเกม RPG กันก่อนค่อยกดออกก็ยังไม่สายเนอะ //กอดขา
อะแฮ่ม เอาล่ะ ในที่สุดก็ได้เข้าเรื่องสักที
ก่อนที่เราจะเอาเกมมาศึกษาอย่างละเอียดได้ เราควรแนะนำ(และเผยแผ่ลัทธิ)ให้ทุก ๆ คนก่อน
เกม RPG หรือ Role-playing Game
คือเกมที่เราสวมบทบาทเป็นตัวละครในเนื้อเรื่องนั้นนั่นเอง
คุณขนมปังไส้ถั่วแดงที่ไม่มีถั่วแดงคะ
จ๋า?
ถ้าแบบนั้นทุกเกมบนโลกใบนี้ก็ถือว่าเป็น RPG น่ะสิ?
.....เอิ่บ
ถ้าจะพูดแบบนั้นมันก็ใช่น่ะนะ....
แล้วจุดที่แยกเกม RPG ออกจากเกมอื่น ๆ คืออะไรกันนะ?
คือต้องขอพูดไว้ก่อนตรงนี้เลยว่าถ้ายึดเอาคำจำกัดความของ Role-playing Game ก็คือตามนั้นเลย
ทุกเกมที่เราเล่นเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะตำรวจจับผู้ร้าย เป็นเจ้าของโรงแรม หรือเล่นเป็นผู้ร้ายซะเอง
ทุกอย่างคือการสวมบทบาทเพราะงั้นทุกเกมควรจะถูกจัดอยู่ในหมวด Role-playing Game สิ???
แอ๊ดแอ่ดดดดดดดดดดดดดด
RPG นั้นมีอะไรมากกว่านั้นค่ะ!!! ดั้งเดิมแล้ว RPG มีที่มาจากบอร์ดเกมอย่าง Dungeon and Dragons ค่ะ เป็นบอร์ดเกมที่ผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นตัวละครที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างกันออกไป
เพื่อง่ายแก่การเข้าใจเราจะขอสรุปลักษณะจำเพาะของ RPG ที่เราเคยเล่นไว้ 4 ข้อหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ
1. ตัวเอกหรือตัวละครที่เราควบคุมได้ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียว หรืออย่างน้อยเวลาสู้เรามักไม่ได้สู้ตัวต่อตัว ส่วนใหญ่กลุ่มตัวละครของตัวเอกจะเรียกว่า 'ปาร์ตี้'
2. ความสามารถของตัวละครมีการเติบโตและพัฒนาการอยู่เสมอ หรือก็คือการมี ‘เลเวล’ นั่นเอง ซึ่งเลเวลจะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Status หรือ Stats ของตัวละครนั้น ๆ ยิ่งเลเวลเก่ง stats ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
3. การเล่นไม่ได้เป็นไปแบบเรียลไทม์ เราจะค่อย ๆ เล่น ค่อย ๆ กดปุ่มก็ไม่มีตัวอะไรมาทำร้ายเราระหว่างคิดแน่นอน อย่างถ้าเป็นเกมต่อสู้ ถ้าเราไม่กดหยุดเกมแน่นอนว่าเราจะโดนอัดน่วมเป็นแน่แท้ ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็น turn based RPG คือเราและศัตรูจะผลัดกันโจมตีคนละรอบ
หน้าตาประมาณนี้
ใครเคยเล่นโปเกม่อนน่าจะคุ้นเคยกันดี
4. โดยเฉพาะในเกมที่เนื้อเรื่องอยู่ในโลกแฟนตาซี จะมี 'ระบบอาชีพ' เพื่อความหลากหลาย ปรับสไตล์การเล่นได้ตามใจชอบ จะมีสายบู๊ทั้งปาร์ตี้เพื่ออัดศัตรูน่วมตั้งแต่เทิร์นแรกเลยก็ย่อมได้ อาชีพที่พบบ่อยใน RPG เช่น นักดาบ จอมเวทย์ นักปราชญ์ นักดนตรี ฯลฯ แต่ละอาชีพจะมีความสามารถแตกต่างกันไป
ถ้าจะสมมติให้เห็นภาพก็เช่น
ท่าไม้ตาย : ยกมือถามอาจารย์
ท่าไม้ตาย : Unlimited 4G Works
อะไรประมาณนี้
เอาล่ะ เมื่อทุกคนรู้จักเกม RPG คร่าว ๆ แล้วเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เรื่องของเรื่องเลยคืออย่างที่บอกไปว่าเกมที่เราหยิบมาใช้ทำบล็อคนี้เปลี่ยนภาษาและเสียงพากย์ได้
แปะภาพปกอีกรอบ
Bravely Second : End Layer
โดย Square Enix
เพราะงั้นพอเล่นแบบเสียงภาษาญี่ปุ่นพร้อม text ภาษาอังกฤษเลยทำให้เราได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง
มาค่ะ ขอยกตัวอย่าง (ในที่นี้จะขอพูดถึงแต่เรื่องของภาษานะคะ ไม่อยากสปอยล์เกมมากจนเกินไป)
นี่บทพูดในช่วงเดียวกันแต่คนละภาษา
ANALYSIS
: 裏切り者を許しておけない...,
それは正教騎士団の使命ーー
: He betrayed you
If you were just blindly performing your duty, you would have executed him as a traitor.
ในภาษาอังกฤษเลือกใช้คำว่า excecute (ประหาร) อย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่ในภาษาญี่ปุ่นกลับกล่าวเป็นนัยไว้เพียงว่า ตามหน้าที่ของแล้ว ไม่อาจปล่อยคนที่หักหลังไปได้... ในบริบทนี้เรารู้กันว่า ยกโทษให้ไม่ได้ (許しておけない) = ประหาร แต่สุดท้ายคำนี้เองก็ถูกเลี่ยงที่จะกล่าวออกมาตรง ๆ
รูป おけない มาจากรูป おく ที่มีความหมายว่า วางไว้ ทำไว้(ก่อน) ปล่อยไว้
ประโยคที่คุ้นเคยกันก็น่าจะเป็น 放っておけない ที่แปลว่า ปล่อยเอาไว้(คนเดียว)ไม่ได้
ก็คือแสดงความเป็นห่วงปนเหนื่อยใจนิด ๆ พอเอา 許しておけない ถ้ามาแปลไทยก็....
ยกโทษให้ไม่ได้
(และมีเซ้นส์ของการต้องจัดการทำอะไรสักอย่าง ปล่อยเอาไว้ไม่ได้....)
ต่อมาเรามาดูทั้งบทพูดกันดีกว่า
จะเห็นได้ว่าบทพูดของอังกฤษนั้นยาวกว่ามาก
และไม่มีการอ้อมค้อมใด ๆ ทั้งสิ้น
ย้ำถึงบุคคลที่หักหลังถึงสองครั้ง (He betrayed you กับ traitor) รวมถึงยังพูดออกมาตรง ๆ ว่า you would have executed him
ส่วนในภาษาญี่ปุ่นกลับไม่มีการชี้เฉพาะเจาะจงว่า ใคร คือคนที่หักหลัง และใครที่จะต้องจัดการ
แต่กลับพูดเป็นนัยว่าคนที่หักหลังทุกคนจะต้องได้รับโทษ
ซึ่งแน่นอนว่าคนที่หักหลังคือ เขาคนนั้น แต่การเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงเขาขึ้นมาอาจเป็นเพราะ เขา ที่ว่านี้เคยเป็นเพื่อนกับตัวละครเอกของเรานั่นเอง อาจกล่าวได้ว่านี่คือการหลีกเลี่ยงที่จะทำร้ายความรู้สึกของตัวละครที่เคยรู้จักกับเขาคนนั้นมาก่อน
แต่ถึงจะพูดอ้อม สุดท้ายถ้าเรารู้บริบทของฉากนี้ ทุกคนจะเข้าใจตรงกันทันที่ว่า อ๋อ หมายถึง คนนั้น คนที่เพิ่งหักหลังเพื่อนเราไป ไม่ได้จะสื่อถึงใครที่ไหนเลย
เอ้อ มันก็เป็นความชัดเจนในความไม่เฉพาะเจาะจงน่ะนะ
วันนี้ขอพอแต่เพียงเท่านี้ ต้องไปตีบอสต่อ
แล้วเจอกันในบล็อคหน้าที่จะจัดเต็มกว่านี้แน่นอน
(หวังว่า....)
(หวังว่า....)
นึกว่าRPGหมายถึงเกมที่สู้ๆกัน ไม่ใช่สินะคะ 55555
ตอบลบแต่น่าสนใจมากที่ภาษาอังกฤษเขาไมแปลว่าแบบยกโทษให้ไม่ได้หรืออะไรแบบนี้ แปลกดีค่ะ
RPG นี้ก็สู้ ๆ กันเหมือนกันนะคะ แค่ไม่ได้สู้แบบเรียลไทม์ จะไปหาขนมกินระหว่างเล่นก็ได้ 55555555 มะก่อนเห็นที่เค้าแปลต่างกันก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ จนมาเรียนวิชานี้ 555555
ลบ